ภาษีธุรกิจให้เช่า คืออะไร เจ้าของและผู้เช่าต้องรู้

ภาษีธุรกิจให้เช่า คืออะไร เจ้าของและผู้เช่าต้องรู้

ว่าด้วยเรื่องของภาษีนั้นมันเลี่ยงไปไหนไม่ได้ มันอยู่ในแทบจะทุกอนูของการใช้ชีวิตเราเลย และมันเป็นสิ่งที่เราต้องจ่ายหากเข้าเกณฑ์ตามที่กรมสรรพกรกำหนดเอาไว้ เลี่ยงก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว เรามากล่าวถึงการให้เช่ากับภาษีกันหน่อย เผื่อใครที่กำลังคิดอยากจะปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ จะเช่าบ้าน ที่ดิน หรืออะไรก็ตาม ธุรกิจนี้มันเหมือนจับเสือมือเปล่า มันกินยาว ๆ เลยในหลายสถานการณ์ ภาษีธุรกิจให้เช่าเป็นอย่างไร เรื่องนี้จะต้องเข้าใจทั้งคนให้เช่าและผู้เช่าด้วย จะได้เข้าใจตรงกันมากขึ้น ทำให้การดำเนินธุรกิจให้เช่าเป็นไปได้อย่างราบรื่นและถูกต้อง

สารบัญ
    Add a header to begin generating the table of contents

    ก่อนปล่อยเช่าหรือเช่าอะไรต้องรู้เกี่ยวกับภาษีธุรกิจให้เช่ามีอะไรที่จะต้องจ่ายบ้าง

    สำหรับใครที่กำลังคิดจะทำธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่าต่าง ๆ มาทำความเข้าใจในเรื่องของภาษีธุรกิจให้เช่ากันสักนิด รวมถึงผู้ที่จะเช่าเองก็จะต้องเรียนรู้เหมือนกัน ว่าการเช่าแบบไหนจะต้องจ่ายอย่างไร อะไรต้องจด VAT สิ่งที่จะต้องเข้าใจเลยคือมันมีคำว่า “ให้เช่า” กับคำว่า “ให้บริการ” ความหมายมันต่างกัน แม้ว่าในบางกรณีชื่อเรียกจะมีคำว่า “เช่า” เหมือนกันก็ตาม

    • การให้เช่าคืออะไร ซึ่งมันหมายถึงการที่ผู้เช่า ได้ส่งมอบครอบครอง ดูแลรักษาสินทรัพย์ให้กับผู้เช่า โดยจะต้องมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าเช่าตั้งแต่เมื่อไหร่ จนถึงเมื่อไหร่ โดยผู้ที่ให้เช่านั้นจะได้รับเงินค่าตอบแทน ที่เรียกกันว่า “ค่าเช่า” นั่นเอง และการให้เช่าแบบนี้จะได้รับยกเว้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7%
    • การให้บริการคืออะไร ในส่วนนี้แม้ว่าจะเรียกว่าเช่า แต่ว่ามันคือการบริการ หาผลประโยชน์ที่มีมูลค่า แต่ว่าจะต้องไม่ใช่การขาย เอาแบบเข้าใจง่ายกว่านี้คือเจ้าของสินทรัพย์จะไม่ส่งมอบการครอบครองให้ เช่น เราเช่าบูทเพื่อขายสินค้าในห้าง เราเช่าแต่เราไม่ได้ครอบครอง ไม่ต้องดูแล แบบนี้เรียก การบริการ ไม่ใช่ การเช่า หรือจะเป็นเราไปเที่ยว เช่าห้องนอนโรงแรม รายวัน แบบนี้ก็เรียกว่าการบริการ แบบนี้ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี VAT 7% ในแต่ละปีหากรายได้ล้านแปดขึ้นไปก็จะต้องจด VAT นั่นเอง

    ภาษีธุรกิจให้เช่าหากทำการจดทะเบียนหรือจ่ายแบบถูกต้องจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในการปล่อยเช่าหรือเช่าเลย ใครที่เข้ามาวงการนี้จะต้องรู้อย่างละเอียด และต้องเข้าใจให้ถูกว่าธุรกิจที่กำลังทำอยู่นั้นเป็นการให้เช่าแบบไหน เรียกให้เช่าหรือว่าเรียกการให้บริการจะได้รู้ว่าตนจำเป็นจะต้องจด VAT หรือไม่ หากต้องจดเวลาเรียกเก็บค่าบริการจะต้องบวก VAT 7% เข้าไปด้วย

    5 ภาษีธุรกิจให้เช่าที่ผู้ปล่อยเช่าจำเป็นต้องรู้

    หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่าพื้นที่ เช่าสินทรัพย์ อสังหาฯ หรืออื่น ๆ นั้นมีเรื่องของภาษีต่าง ๆ มาเกี่ยวข้องหลากหลายเลย ซึ่งจะต้องจ่ายให้กับรัฐเพื่อนำไปพัฒนาประเทศต่อไป จริง ๆ แล้วทุกอาชีพ ทุกคน ทุกอย่างจะต้องเสียภาษีตามกฎหมาย ธุรกิจให้เช่าก็เช่นกัน เวลาจะคำนวณภาษีแล้วนำส่งแต่ละปีจะได้ไม่พลาดมาดูกันว่ามีภาษีธุรกิจให้เช่าแบบไหนบ้างที่ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจะต้องเข้าใจ

    • ภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ในนามบริษัทหรือนายทุนเท่านั้นที่จะทำธุรกิจให้เช่าได้ คนธรรมดาก็ทำได้เช่นกัน ภาษีเงินได้นี้มาจากการที่เราได้ปล่อยให้เช่าอาคาร สถานที่ ต่าง ๆ ก็จะยึดเป็นเงินได้ตามกฎหมาย มาตรา 40(5) เงินค่าเช่าที่ได้มาจะต้องเอามาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แบบรายได้อื่น ๆ เลย แต่ถ้าเป็นนิติบุคคล ก็ต้องเอามาเข้าในงบกำไรขาดทุนสุทธิด้วย เวลายื่นภาษีจะได้ทำถูกต้อง
    • ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในเมื่อสิ่งที่เราได้ปล่อยเช่าไปนั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ อาคาร สถานที่ โรงเรือน ต่าง ๆ ให้เช่าแบบรายเดือน รายปีก็ตาม แม้จะปล่อยเช่าไปแล้วผู้เช่ายังคงมีหน้าที่ในการเสียภาษีเหมือนเดิม จะเป็นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นั่นเอง ซึ่งที่ดินจะทำการคำนวณและประเมินราคาทุกปี
    • ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือเราจะคุ้นกับคำว่า VAT 7% ในการให้เช่าอสังคาริมทรัพย์ ต่าง ๆ นั้น จะได้รับการยกเว้นภาษีในส่วนนี้ แต่ว่าหากมีบริการให้เช่าอย่างอื่นร่วมด้วยก็จะต้องคิดเหมือนเดิม เช่น ให้เช่า เฟอร์นิเจอร์ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าบริการอื่นที่ไม่ใช่การเช่าอสังหาฯ ก็ต้องเสียเหมือนเดิม เวลาจะคิดราคาก็อย่าลืมบวก VAT 7% นี้ด้วย เว้นแต่ว่าปล่อยเช่าแต่อสังหาฯอย่างเดียวไม่มีอะไรพ่วงเลย
    • อากรแสตมป์ หากมีการปล่อยให้เช่าและทำสัญญาเช่าอสังหาฯ ต่าง ๆ ตามหลักผู้เช่าที่ต้องติดอากรแสตมป์ 1 บาทต่อมูลค่าสัญญาเช่าทุก ๆ 1000 บาท หรือเศษของ 1000 แล้วให้ผู้ที่เช่านั้นขีดฆ่าแสตมป์ให้เรียบร้อยตลอดสัญญาเลย เป็นอีกหนึ่งภาษีธุรกิจให้เช่าที่จะต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียด
    • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย สำหรับข้อนี้จะเกี่ยวกับผู้เช่าที่เป็นนิติบุคคลเท่านั้นจะหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบนี้ได้ โดยจะมีหลักการหักอยู่ที่ 3% หรือ 5% แล้วแต่กรณี สำหรับการเช่าแบบส่งมอบ พร้อมดูแล ด้วยจะต้องหัก 5% แต่ถ้าเช่าแบบชั่วคราว เช่น การเช่าพื้นที่ห้างขายของ จัดบูทแสดงสินค้า แบบนี้เรียกการบริการจะต้องหัก 3%

    เรื่องของภาษีบางคนแค่ได้ยินก็ส่ายหัวแล้ว แต่ถ้าหากคุณคิดจะก้าวขาเข้ามาในเรื่องของธุรกิจยังก็หนีไม่พ้นบัญชีและภาษีอยู่แล้ว การทำธุรกิจให้เช่าแบบนี้ ค่อนข้างละเอียดอ่อนเหมือนกัน ซึ่งต้องดูให้ดีต้องเข้าใจว่าภาษีธุรกิจให้เช่าที่เกี่ยวข้องและต้องเสียมีอะไรบ้างที่เข้าเกณฑ์เวลาที่ยื่นภาษีแต่ละปีจะได้ไม่ตกหล่น เวลาตั้งราคาจะได้รู้ว่าควรจะบวกอะไรเพิ่มแค่ไหน

    เก็บเงินมัดจำมาจากลูกค้าต้องจ่ายภาษีธุรกิจให้เช่าแบบไหน

    เวลาที่เราจะปล่อยเช่าจะต้องเรียกเก็บเงินมัดจำกับลูกค้ามาด้วย และมันก็มีส่วนเกี่ยวกับภาษีธุรกิจให้เช่าเหมือนกัน ซึ่งทางกรมสรรพากรนั้นบอกว่า เงินมัดจำค่าเช่านั้นที่เรียกเก็บมาเป็นแบบเงินก้อน หรือเป็นเงินค่าเช่าทั้งจำนวนเลยจะต้องมีการเสียภาษีเงินได้แบบนิติบุคคล ซึ่งจะต้องหัก ณ ที่จ่าย 5% ทุกครั้ง เว้นแต่ว่าเป็นการเก็บมันจำตามเงื่อนไขดังนี้

    • ตามธรรมเนียมทางธุรกิจต้องมีการเรียกเก็บอยู่แล้ว
    • จะต้องมีการคืนเงินมัดจำให้ผู้เช่นทันทีหลังสิ้นสุดสัญญาแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ถ้าหากผู้เช่าได้ทำให้อะไรเสียหาย คนที่ปล่อยเช่าก็หักลบจากเงินประกันจำนวนนั้นได้
    • เวลาเรียกเก็บเงินประกันหรือมัดจำนั้นต้องไม่เยอะเกินไป ไม่เกิน 3 – 6 เท่าของค่าเช่า
    • ตามสัญญาที่ให้เช่าทรัพย์สิน อายุสัญญา ไม่เกิน 3 ปี

    หากยังมองภาพไม่ชัดว่าตกลงต้องหัก ณ ที่จ่าย 5% ไหม ยกตัวอย่างเช่น คุณได้ปล่อยเช่าตึกแบบรายเดือน แล้วมีลูกค้ามาเช่า สัญญา 1 ปี แล้วคุณก็เรียกเก็บค่ามัดจำล่วงหน้า 1 เดือน เงินประกัน 1 เดือน ก็ต้องมาดูที่ตัวสัญญาที่ระบุไว้ หากระบุว่าในวันสิ้นสุดสัญญาไม่ได้ระบุว่าจะคืนเงินทันทีแบบนี้ ผู้เช่าจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย หากในสัญญาระบุว่าต้องคืนเงินทันทีหลักสิ้นสุดสัญญาแบบนี้ก็ไม่ต้องเสีย 5% พอจะมองภาพออกแล้วใช่ไหม ก็ไม่ถือว่ายากอะไรสำหรับการเข้าใจภาษีธุรกิจให้เช่าในส่วนนี้

    บทสรุป

    มาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนพอจะเข้าใจเรื่องของภาษีธุรกิจให้เช่าพอสมควร ทุกอย่างมันมีเงื่อนไขของมันเสมอ หากต้องการจะประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการปล่อยเช่า เราจะมองแค่เงินกำไรไม่ได้ ต้องดูที่ต้นทุน รายจ่าย รายได้ มีอะไรบ้าง ในส่วนของรายรับที่มาจากค่าเช่านั้น ก็ยังต้องดูว่าเป็นการให้เช่าแบบไหน หากเป็นการบริการ VAT 7% ต้องนำมาบวกด้วย แต่ถ้าเป็นการให้เช่าจริง ๆ แบบเช่าตึก อสังหาฯ ต่าง ๆ รายเดือน รายปี ก็ต้องมาดูภาษี หัก ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ว่าต้องเสียหรือไม่ ในเบื้องต้นของการทำธุรกิจนี้ที่เกี่ยวข้องกับภาษีก็มีประมาณนี้เลย แต่ถ้าใครคิดจะเริ่มกันจริงจังอย่าลืมศึกษาอย่างละเอียดรอบด้าน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาดได้ หากพลาดบางอย่างก็อาจส่งผลให้ไปไม่รอดได้เช่นกัน 📌Station Accout – เรารับทำบัญชีมาตรฐานสูงสุด™

    สำนักงานบัญชีคุณภาพ