แคชเชียร์เช็คคืออะไร

แคชเชียร์เช็คคืออะไร

ในหลาย ๆ ธุรกิจนั้นจะต้องมีการใช้เงินก้อนจำนวนมากเวลาทำการจ่ายค่าต่าง ๆ อย่างธุรกิจรับเหมา เป็นต้น ซึ่งมันมีข้อดีหลายอย่างมากกว่าการจ่ายเงินสดเป็นก้อนใหญ่ ๆ พกพาลำบาก หรือเช็คปกติก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เสี่ยงที่จะโดนเช็คเด้งได้ง่าย ๆ เหมือนกัน แต่พอใช้เป็นระบบแบบแคชเชียร์เช็คก็ตัดปัญหาพวกนั้นไปได้เลยนั่นเอง มีความสะดวกสบายในการใช้งานมาก ๆ เวลาจะทำการจ่ายอะไรที่เป็นเงินจำนวนเยอะ ๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องพกเงินสดกับตัวเยอะ ๆ อีกต่อไป บทความนี้ชวนทุกคนมารู้จักว่าแคชเชียร์เช็คนี้คืออะไร

สารบัญ
    Add a header to begin generating the table of contents

    ทำความรู้จักแคชเชียร์เช็คคืออะไรกันนะ

    เอาแบบเข้าใจกันไว ๆ เลยคือ เป็นเช็คอีกรูปแบบหนึ่ง ถ้าเป็นแบบปกติเวลาจะเขียนเช็คก็เราเป็นคนเขียนเองยื่นเองเลย แต่ว่าสำหรับแคชเชียร์เช็คเราไม่ได้เป็นคนทำ แต่จะเป็นเช็คที่ถูกสั่งจ่ายจากธนาคารมาโดยตรงเลย สำหรับใครที่ต้องการจะจ่ายเงินด้วยวิธีนี้ก็จะต้องมีการจ่ายค่าชำระและค่าบริการให้กับทางธนาคารด้วย แล้วทางธนาคารก็จะทำการออกเช็คให้ และแคชเชียร์เช็คดังกล่าวจะจ่ายให้ใครต้องระบุชื่อผู้รับเงินเอาไว้อย่างชัดเจนด้วย ก็คือเป็นเช็คที่เราไม่ต้องเขียนเองออกเองแค่บอกให้แบงค์จัดการให้นั่นเอง หลายธุรกิจมักจะจ่ายด้วยวิธีนี้

    การใช้แคชเชียร์เช็คมีข้อดีอย่างไร

    มันมีข้อดีอยู่แล้วมิเช่นนั้นคงไม่มีใครสนใจจะใช้เป็นแน่ ความน่าสนใจของการใช้แคชเชียร์เช็คอย่างหนึ่งคือ ผู้รับก็ได้เงินแน่ ๆ เพราะจะไม่มีการเกิดปัญหาเช็คเด้งขึ้นเงินไม่ได้แน่นอน เพราะไม่ใช่ใครก็จะจ่ายเงินแบบนี้ได้ เพราะคนที่จะจ่ายต้องมีการซื้อตัวแคชเชียร์เช็คจากทางธนาคารก่อน 1 ต่อ จากนั้นธนาคารค่อยเป็นผู้ออกเช็ค ซึ่งถ้ามองในมุมความน่าเชื่อถือตัวธนาคารก็มีเยอะกว่าอยู่แล้ว ถามว่ากรณีมันจะเด้งมีไหม เราจะได้เงินช้าไหม มันก็เป็นไปได้หากธนาคารนั้น ๆ อยู่ ๆ ก็เกิดล้มละลายขึ้นมา ณ วันเวลาที่คุณดันจะได้รับเงินจากเช็คนั้นพอดี แต่โอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นเปอร์เซ็นมันก็น้อยกว่ากันเลยถ้าเทียบกับตัวบุคคลที่สั่งจ่ายเช็คเอง

    สำหรับใครที่ได้รับเงินจากแคชเชียร์เช็คมาแล้ว ก็สามารถขึ้นเงินได้ตลอดเลย มันก็เหมือนตั๋วแลกเงินใบหนึ่งเลย ซึ่งความปลอดภัยจะสูงกว่าเช็คปกติ แต่ไม่ได้หมายความว่าเช็คปกติมันไม่ดี มันก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม แต่อาจจะเสี่ยงหน่อยหากคุณรับเงินมาจากบุคคลที่ไม่รู้ว่าวางใจได้แค่ไหน บริษัทที่ไม่รู้ว่ามีเงินจ่ายคุณจริงแค่ไหน แต่ถ้าบริษัทหรือบุคคลนั้น ๆ ทำการจ่ายมาแบบแคชเชียร์เช็คก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลเลยเพราะมั่นใจได้คุณจะได้รับเงินแน่นอน

    การซื้อแคชเชียร์เช็คเพื่อนำจ่ายเงินทำอย่างไร

    ความพิเศษของการซื้อแคชเชียร์เช็คคือ มันไม่เด้งแน่นอนและเราจะต้องมีเงิน จะไม่ใช่หยิบสมุดเช็คมาเขียนเซ็นแล้วยื่นให้ผู้รับเลยแบบนั้นไม่ได้ สำหรับหัวข้อนี้ก็จะชวนมาทำความเข้าใจการใช้แคชเชียร์เช็ค มาดูกันว่าเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นำไปจ่ายได้มีขั้นตอนดังนี้

    • ขั้นแรกเลยจะต้องทำการขออนุมัติก่อน ถ้าเป็นบริษัทฝ่ายการเงินจะต้องเป็นผู้รับหน้าที่จัดการยื่นเรื่องให้ผู้มีอำนาจของบริษัทนั้น ๆ จะทำให้ได้หลักฐานการจ่ายเงินสำหรับซื้อแคชเชียร์เช็คนั่นเอง
    • ต่อไปก็ต้องตรวจสอบเงินที่จะใช้ในการซื้อ จะเป็นเงินสดหรือว่าในบัญชีก็ได้ เงินในนั้นจะต้องมีจำนวนเพียงพอสำหรับการจ่ายแคชเชียร์เช็ค สำคัญมากอย่างหนึ่งคืออย่าลืมระบุให้ชัดเจนว่าผู้รับคือใคร เวลาจะขอซื้อทางธนาคารก็จะให้กรอกเสมอ
    • ขั้นต่อไปนั้นใส่ใจเรื่องวันที่ด้วย จะต้องเป็นวันที่กำหนดการจ่ายให้กับทางผู้รับหรือคู่ค้า แต่ว่าเวลาที่เราขอซื้อแคชเชียร์เช็คนั้นเราออกก่อนได้ แต่ตอนมอบให้นั้นจะต้องเป็นวันตามกำหนด เพราะว่าจะจ่ายล่วงหน้าไม่ได้ และพอได้รับแคชเชียร์เช็คมาได้แล้วสามารถขึ้นเงินได้ทันที
    • ทำการตรวจการจ่ายเงินที่ใบเสร็จกับทางผู้รับ เพราะว่าเวลาที่เราจ่ายแคชเชียร์เช็คไปแล้วก็เหมือนเราจ่ายเงินสดซื้อของไปแล้วแบบนั้นเลย ฉะนั้นใบเสร็จเราก็ต้องได้มานะ เป็นการยืนยันการจ่ายเงินของเรา

    สำหรับขั้นตอนการสั่งจ่ายแคชเชียร์เช็คก็มีประมาณนี้เลย ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรซับซ้อนมากมาย สำคัญเลยคือ “เงิน” เพราะถ้าจำนวนเงินไม่เพียงพอสำหรับการซื้อทางธนาคารก็จะไม่มีการออกแคชเชียร์เช็คให้ สำหรับใครที่จะรับเงินเป็นก้อน ๆ ก็ให้รับเป็นแคชเชียร์เช็คแบบนี้ได้เลย

    ความแตกต่างของเช็คทั่วไปกับแคชเชียร์เช็คคืออะไร

    หากถามว่ามันจะเป็นอะไรไหมหากเราส่งของโดยไม่มีเอกสารชนิดนี้ จริง ๆ แล้วหากเป็นบริษัทหรือธุรกิจที่ไม่ได้จด VAT ซื้อของโดยไม่ได้สนใจจะต้องเผื่อเหลือเผื่อเกิดปัญหาอะไรตามมา ซื้อขายไปแบบจบ ๆ ไปเฉย ๆ ก็คงไม่เป็นไร แต่ว่าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมามันจะขาดหลักฐานในการซื้อขายรอบดังกล่าว ความสำคัญของใบส่งของมันอยู่ตรงนี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่จด VAT ยังไงก็ต้องมีใบส่งสินค้าเพราะมันเกี่ยวกับภาษีด้วย ไม่มีไม่ได้ และแม้ไม่ได้จด VAT การใช้ใบส่งสินค้าเสมอมันย่อมดีกว่า เพราะมันคือหลักฐานสำคัญที่ใช้ในทางกฎหมายได้

    เวลาที่ส่งของมอบให้ลูกค้าเซ็นใบส่งของและให้ลูกค้าตรวจสอบสินค้าให้ดีก่อนเซ็นเสมอ และพอทุกอย่างเรียบร้อย ทางเราเองควรเก็บสำเนาไว้ 1 ฉบับ กับให้ต้นฉบับกับลูกค้าไป ในตอนที่เราเป็นคนซื้อของเองก็จะต้องได้รับเอกสารต้นฉบับใบส่งสินค้านี้เช่นกัน ไม่ว่าจะซื้อจำนวนมากน้อยแค่ไหนก็จะต้องมีการเอกสารหลักฐานสำคัญนี้ทุกครั้ง เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหากำลังจะตามมาไหม เพื่อเอาไว้ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองว่าส่งจริง ครบ ใครเป็นคนส่ง คนรับของในครั้งนั้น มันสำคัญมาก ๆ แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สินค้าขาด หาย ตกหล่นยังไง จะได้รู้ว่าผิดที่ฝั่งไหน การแก้ปัญหาที่ถูกจุดจะตามมา หากต้องมีการขึ้นโรงขึ้นศาล ใบส่งของจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเลย

    เช็คมีกี่ประเภท

    สำหรับประเทศเราก็มีการใช้เช็คจ่ายเงินเป็นที่นิยมอยู่ไม่น้อย ในด้านกฎหมายแล้วเราใช้เช็คแบบไหนได้บ้างและมีกี่ประเภทกัน มาดูกันเลยว่ามีกี่ประเภทดังนี้

    • ประเภทบุคคลธรรมดา สำหรับประเภทนี้ก็ตามชื่อเลย สำหรับบุคคลธรรมดาสั่งจ่ายเช็ค
    • ประเภทนิติบุคคล ตามที่เข้าใจเลยสำหรับบริษัทหรือองค์กรที่ทำการสั่งจ่ายเช็ค
    • ต่อมาก็เป็นแคชเชียร์เช็ค ที่เป็นหัวข้อหลักของบทความนี้ เป็นเช็คที่สั่งจ่ายโดยธนาคารและต้องมีการระบุชื่อผู้รับอย่างชัดเจนเสมอ และผู้ที่จะซื้อแคชเชียร์เช็คได้ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการซื้อด้วย อยู่ที่ประมาณ 20 บาท พอผู้รับได้เช็คแล้วประเภทนี้ก็ขึ้นเงินได้ในวันเดียวกันเลยและไม่มีการเสียค่าธรรมเนียมใด ๆ อีก ยกเว้นแต่การขึ้นเงินแบบข้ามจังหวัดหรือต่างสาขาธนาคาร ก็อาจจะต้องเสียอยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อ 1 หมื่นบาทประมาณนั้นเลย
    • ประเภทของขวัญ สำหรับประเภทนี้ก็จะคล้าย ๆ กับแคชเชียร์เช็คเลยแต่มันมีหน้าที่สำหรับการมอบให้ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ
    • ประเภทดราฟต์ สำหรับเช็คประเภทนี้นั้นผู้ซื้อต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมตามราคาบนหน้าดราฟต์ด้วย ขั้นต่ำ 10 บาท สูงสุดหนึ่งพัน และแน่นอนว่าทางผู้รับเงินจะไม่ได้เสียแม้ว่าจะนำไปขึ้นเงินต่างสาขา ต่างธนาคารหรือกระทั่งต่างจังหวัดด้วย
    • เช็คขีดคร่อม เป็นประเภทที่ไม่ค่อยได้ยินกันเท่าไหร่ เป็นแบบที่ผู้รับต้องฝากเงินเข้าไปในบัญชีก่อน แล้วค่อยทำการถอนเงินสดออกมาอีกครั้ง และยังมีแบ่งย่อยออกมาเป็น 2 แบบด้วยคือ ถ้าเป็นการระบุหรือผู้ถือ ก็สามารถฝากเช็คนั้น ๆ เข้าบัญชีธนาคารอะไรก็ได้ อีกแบบคือระบุ หรือจะเรียกเป็นเช็คตามคำสั่ง ซึ่งจะต้องนำฝากเข้าบัญชีของผู้รับเงินที่ระบุไว้แล้วเท่านั้นจะว่าคล้ายแคชเชียร์เช็คอยู่บ้างก็คงถูก

    เช็คมีหลายประเภทและแคชเชียร์เช็คเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่วนใครจะเลือกใช้เป็นเช็คแบบไหนก็ตามสะดวกได้เลย เลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตนเองหรือคุยกับทางผู้รับก่อนได้ว่าต้องการรับเงินแบบไหน

    บทสรุป

    ในมุมของผู้รับเงินแล้วการรับแบบแคชเชียร์เช็คจะมั่นใจได้แน่นอนว่าเงินจะไม่ไปไหน ได้รับเงินเต็มจำนวน เช็คไม่มีเด้ง และเมื่อได้รับมาแล้ว จะนำไปขึ้นเงินเลยก็ยังได้ไม่ต้องรอเวลา ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ในมุมของผู้จ่ายเงินอย่าลืมเตรียมเงินให้เพียงพอสำหรับที่จะจ่ายและเตรียมค่าธรรมเนียมด้วย และเมื่อนำแคชเชียร์เช็คจ่ายไปแล้วอย่าลืมที่จะรับใบเสร็จมาเสมอ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้ทำการจ่ายให้แก่ผู้รับเงินเรียบร้อยแล้ว หลายบริษัทเลือกใช้วิธีนี้เพื่อความมั่นใจแก่ผู้รับเงินและสร้างความเชื่อมั่นให้กับบริษัทเอง ไม่ต้องเจอปัญหาเช็คเด้งอีกต่อไป📌Station Accout – เรารับจดทะเบียนบริษัทดีที่สุด™

    สำนักงานบัญชีคุณภาพ